วิธีแก้เด็กติดเกม เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะบานปลาย

 


วิธีแก้ปัญหาเด็กติดเกมและปวดหัวอย่างต่อเนื่องของผู้ปกครอง? แต่การติดเกมเป็นเพียงผลจากหลายสิ่งหลายอย่าง ปัจจัยผสมด้วยเหตุผลหลายประการเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจบานปลาย เราขอแนะนำวิธีป้องกันและแก้ไขการติดเกมของเด็ก


วิธีป้องกัน

1. พูดคุยกับเด็ก เพื่อตั้งกฎล่วงหน้าก่อนซื้อเกมหรือให้เด็กเล่น เมื่อไหร่เด็กจะเล่นเกมได้? วันไหนเล่นไม่ได้ เล่นได้ครั้งละไม่เกินสองสามชั่วโมง จากเวลาไหนถึงกี่โมงก่อนเล่น รับผิดชอบสิ่งที่ต้องทำก่อน หากเด็กไม่ปฏิบัติตามกฎ เช่น เล่นล่วงเวลา ไม่ทำการบ้านก่อน ฯลฯ เด็กจะถูกลงโทษอย่างไร? (ขอแนะนำให้ยึดเกมหรือตัดสิทธิ์จากการเล่นเป็นระยะเวลาหนึ่งหากเด็กไม่ปฏิบัติตามกฎที่ตกลงกันไว้)

2. วางคอมพิวเตอร์หรือเครื่องเล่นเกมของคุณไว้ในที่โล่ง มีการสัญจรไปมาบ่อยครั้ง ไม่ควรวางในห้องนอนหรือห้องปิด เพื่อให้ผู้ปกครองได้ปฏิบัติตาม ทั้งนี้เพื่อป้องกันมิให้เด็กถูกจับเป็นเชลย แอบเล่นคนเดียวในห้องหรือแอบเล่นทั้งคืน

3. วางนาฬิกาขนาดใหญ่ไว้ด้านหน้าเครื่อง หรืออยู่ในตำแหน่งที่เด็กมองเห็นได้ชัดเจน

4. ให้คำชมแก่เด็ก ๆ เมื่อพวกเขาสามารถรักษาเวลาได้ คุณสามารถควบคุมตัวเองจากการเล่นในช่วงเวลาที่กำหนด

5. จริงจัง หากเด็กไม่ทำตามกฎ เช่น ริบเกมโดยไม่ลังเล ถอดปลั๊กโมเด็ม ฯลฯ

6. ส่งเสริมและจัดกิจกรรมสนุก ๆ อื่น ๆ (เช่นความสนุกหรือเกมอื่น ๆ ) ให้เด็ก ๆ ทำหรือกิจกรรมครอบครัว

7. หลีกเลี่ยงการใช้เกมเป็นพี่เลี้ยงเด็ก เพื่อให้พ่อแม่มีเวลาทำอย่างอื่น

8. สอนลูกให้แบ่งเวลา รู้วิธีใช้ให้ถูกเวลา


วิธีการแก้

1. หากในบ้านไม่มีกฎเกณฑ์หรือกฎในการเล่นเกม จำเป็นต้องพูดคุยกับเด็กและมีส่วนร่วมในการตั้งกฎ กำหนดเวลาในการเล่น (เหมือนกับข้อ 1 ในส่วนการป้องกัน)

2.มีเวลาอยู่กับเด็กๆ มากขึ้น พาพวกเขาออกไปทำกิจกรรมที่เด็กๆ ชอบ (ยกเว้นเล่นเกมนอกบ้าน) อย่าลืมว่าเด็กบางคนติดเกมเพราะความเหงา เบื่อ ไม่มีอะไรทำสนุกเลย

3.รักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน หลีกเลี่ยงการบ่น ประณาม คำพูดที่แสดงอารมณ์หรือรุนแรง แสดงความเห็นอกเห็นใจ เข้าใจว่าเด็กไม่สามารถควบคุมตนเองได้ หรือตัดขาดจากเกมจริงๆ

4. ผู้ปกครองควรร่วมมือกันแก้ปัญหา ใช้กฎเกณฑ์เดียวกัน อย่าเปลี่ยนเป็นภาระหรือความรับผิดชอบของคนอื่น

5. รูปแบบเครือข่าย (เครือข่าย) ผู้ปกครองที่มีลูกติดเกมเดียวกันในหลายครอบครัว แล้วผลัดกันนำเด็กทำกิจกรรมหลังเลิกเรียน หรือในวันหยุด เช่น แคมป์ปิ้ง ทัศนศึกษา เดินแรลลี่ ฯลฯ ตั้งกลุ่มเล็ก ๆ เช่น สปอร์ตคลับ แอดเวนเจอร์คลับ ฯลฯ

6. กรณีที่ติดจริงและลูกไม่ยอมเลิกอย่างแรง ช่วงแรกพ่อแม่ควรเล่นเกมกับลูก (แต่อย่าไปติดเองนะครับ) ทำความรู้จักกับเกมที่เด็กๆ ชอบเล่น หากคุณคิดว่าเกมไม่เหมาะสม หรือเกมที่มีความรุนแรง พยายามเบี่ยงเบนความสนใจของลูกไปยังเกมอื่นๆ ที่มีบทบาท ดึงเอาส่วนดีของเกมมาสอนลูกๆ เช่น เกมสร้างเมือง เกมวางแผน เกมเล่นตามบทบาทเพื่อฝึกทักษะการเข้าสังคม ฯลฯ เมื่อความสัมพันธ์กับลูกเริ่มดีขึ้นทีละน้อย ผู้ปกครองจึงสนใจกิจกรรมอื่นๆ .

7. หากวิธีการข้างต้นไม่ได้ผล ผู้ปกครองควรพาลูกไปพบจิตแพทย์เด็ก เพราะลูกอาจจะป่วยมีปัญหาสุขภาพจิต

อ่านบทความ เพิ่มเติมจาก โรงเรียนวัดวิเวการาม

ความคิดเห็น