โรคสมาธิสั้นเป็นโรคทางสมอง อาการที่สังเกตได้ง่าย เช่น กระสับกระส่าย ขาดสมาธิ กระสับกระส่าย ปากแข็ง ไม่เชื่อฟัง อาการซุกซน เด็ก 1 ใน 3 ที่มีสมาธิสั้นเมื่อโตขึ้นจะค่อยๆ หายไปเอง
พบค่อนข้างบ่อย ในเด็กอายุระหว่าง 3 ถึง 7 ปี อาการอาจเด่นชัดขึ้นเมื่ออายุ 7 ขวบ เพราะถึงเวลาต้องไปโรงเรียนแล้ว มีกิจกรรมหลายอย่างที่ต้องรับผิดชอบ
อาการที่บ่งบอกว่าอาจเป็น โรคสมาธิสั้น
หากเด็กมีอาการต่าง ๆ เหล่านี้ 6 ข้อ หรือมากกว่า ติดต่อกันเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 6 เดือน ให้เฝ้าระวังว่าเด็กอาจมีอาการของการขาดสมาธิ
- ไม่มีสมาธิในการทำงาน หรือการเล่น
- ไม่ได้ฟังสิ่งที่คนอื่นพูดกับตน
- ทำตามคำสั่งได้ไม่ครบ หรือทำงานไม่เสร็จ
- ทำงานไม่เป็นระเบียบ
- ไม่ชอบ หรือไม่เต็มใจในการทำงานที่ต้องใช้ความคิด
- วอกแวก สนใจสิ่งเร้าภายนอกได้ง่าย
- เล่นเสียงดัง
- ตื่นตัวตลอดเวลา หรือตื่นเต้นง่าย
- หลงลืมทำกิจวัตรที่ต้องทำเป็นประจำ
- หยุกหยิก อยู่ไม่สุข ชอบขยับมือ และเท้าไปมา หรือนั่งนิ่ง ๆ ไม่ได้
- ลุกจากที่นั่งในห้องเรียน หรือในสถานการณ์อื่น โดยไม่มีสาเหตุ
- ไม่สามารถเล่น หรือทำกิจกรรมอย่างเงียบ ๆ ได้
- ไม่ชอบการเข้าคิว หรือการรอคอย
วิธีป้องกันบุตรหลานของคุณจาก ADHD
ฝึกทำสิ่งต่างๆ เป็นเวลา 20-30 นาทีโดยไม่ต้องลุก เช่น ต่อจิ๊กซอว์ ต่อเลโก้ วาดรูป โดยมีผู้ปกครองคอยช่วยอยู่ข้างๆ
หลีกเลี่ยงการให้ลูกดื่ม หรือขนมที่มีคาเฟอีน เช่น น้ำอัดลม ช็อกโกแลต ไอศกรีมช็อกโกแลต เพราะช็อกโกแลตเป็นส่วนผสมของโกโก้ ยิ่งเข้มข้น ยิ่งปริมาณคาเฟอีนสูงเท่าไหร่ก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น
ลดสิ่งเร้ารอบตัวเด็กที่มีสมาธิสั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสภาพแวดล้อมรอบตัวคุณ เช่น ห้องนอนของคุณ ซึ่งควรมีบรรยากาศที่เงียบกว่า สงบกว่า และจัดของใช้ของคุณให้เป็นระเบียบ เมื่อลูกทำการบ้านจนไม่มีอะไรมากวนใจ
เล่นกีฬา เล่นดนตรีหรือศิลปะ เชิญบุตรหลานของคุณทำกิจกรรมที่เขาหรือเธอชอบ โดยสังเกตดูว่าเด็กๆ สนใจกิจกรรมพิเศษใดๆ หรือไม่ หรือถ้ายังไม่รู้ ชวนไปเล่นกีฬาง่ายๆ วาดรูป ระบายสี จนเด็กสนใจตัวเอง ถ้าลูกของคุณชอบอะไรเป็นพิเศษ ให้ทำทีละน้อย โดยเพิ่มเวลาให้มากขึ้น
ติดตาม สาระน่ารู้ เพิ่มเติมจาก โรงเรียนบ้านเขาน้อย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น